Dexter



Dexter ทีวีซีรีส์ตั้งแต่ปี 2006-2013

เคยเขียนรีวิวไปแล้วที่บล็อกเก่า http://dfaxtor.exteen.com/20130525/series-dexter พอเห็นที่ Netflix ก้ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลับมาดูอีกรอบทั้งทีไม่ชอบตอนจบเลย

หนังซีรี่ส์อเมริกา 1-8 (จบ) ซีซั่นที่ 8 ซีซั่นสุดท้ายฉายปลายเดือนมิถุนายน 56 
ซี่รีส์ Dexter ตอนแรกที่รู้จากคำบอกเล่าคือ เรื่องนี้เป็นแนวอาชญากรรมซึ่งตัวเอกเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ไล่ฆ่าฆาตกรต่อเนื่อง จึงไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเน้นการขายความรุนแรงในการฆ่า เน้นความโรคจิตของฆาตกรที่ดูน่าสะอิดสะเอียนเหมือนฮันนิบาลแต่ซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น ผิดความคาดหมายไปเลย
ในมุมมองของแมวน้ำ เด็กซ์เวอร์เวอร์ชั่นซีรีส์สะท้อนมุมมองของมนุษย์อย่างเจาะลึกถึงแก่นโดยผ่านตัวละครต่าง ๆ มันเป็นเรื่องที่ทุกครั้งที่จบตอนจะต้องกลับมาย้อนพิจารณาตัวเองอย่างหนักว่า “เราเคยเป็นแบบนั้นหรือไม่” “เคยคิดแบบนั้นหรือไม่” “ถ้าเป็นเราจะแก้ปัญหาอย่างไร”
ตัวละครทุกตัวมีมิติมีเนื้อหาของตัวเองค่อนข้างลึกมาก มีการคลี่คลายและแก้ปัญหาชีวิตของตัวละครในวิธีทางและนิสัยของตัวละครนั้น ๆ 
แมวน้ำจะไม่สปอยเรื่องอย่างแน่นอนเพราะรู้เรื่องก่อนความสนุกกับเรื่องแนวนี้จะลดลงไปเยอะ แต่จะมาเขียนถึงแนวคิดที่ได้จากซีซั่น 1-7 ที่ได้ดูว่าเรื่องนี้กำลังจะบอกอะไรเรา ผ่านตัวละคร เด็กซ์เตอร์ มอร์แกน
ซีซั่น 1 เป็นการเริ่มเรื่องและแนะนำตัวละคร สิ่งที่บทของเรื่องนี้ส่งคำถามออกมาคือ “เราเกิดมาจากไหน” จุดกำเนิดตัวตนของเราอยู่ที่ไหน มันเป็นคำถามให้ค้นไปต่อว่าเราที่เป็นเราทุกวันนี้มีจุดเกิดจากท้องแม่จริงเหรอ อะไรล่ะเป็นสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมและความคิดของเรา 
ซีซั่น 2 “เราเป็นใคร” เรารู้จักตัวตนของเราหรือเปล่าว่าเรานิสัยอย่างไร เคยสำรวจด้านลึกของตัวเราเองหรือไม่ว่าด้านที่แสดงต่อสาธารณะชนกับด้านที่ปิดบังเป็นความลับมีอะไรบ้าง มันคือทฤษฏี persona กับ shadow ในจิตวิทยานั่นเอง
ซีซั่น 3 “เราจำเป็นต้องการเพื่อนหรือสังคมจริงหรือไม่” เป็นซีซั่นที่ตีแสกหน้าความคิดที่ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมอย่างมาก เพื่อนสำหรับเราคืออะไร เพื่อนมีขอบเขตแค่ไหน เพื่อนสนิทมีจริงหรือไม่ เพื่อนมีความจำเป็นจริงเหรอ มนุษย์โหยหาการปฏิสัมพันธ์จากมนุษย์ด้วยกันจริงเหรอ 
ซีซั่น 4 เมื่อเรารู้จุดกำเนิด รู้ตัวตน รู้สังคมที่อยู่แวดล้อม เราต้องมีครอบครัวใช่หรือไม่ เราจะปกปิดความลับกับคนที่เรารักหรือเปล่า เราไว้ใจครอบครัวเราหรือเปล่า ตัวตนของเราตอนอยู่กับครอบครัวใช่ตัวเราหรือเปล่าหรือตัวตนที่อยู่ข้างนอกคือตัวตนจริง “ครอบครัวคืออะไรสำหรับเรา” 
ซีรี่ส์นี้แรง แรงตอนจบซีรี่ส์ค่ะ เล่นทำให้แมวน้ำเหวอเลยเพราะไม่คิดว่าจะเขียนเรื่องให้เป็นแบบนี้ คิดไม่ออกไปเลยถ้าเป็นตัวเองเจอเหตุการณ์แบบนั้น จะสามารถปรับตัวกลับมาที่เดิมของตัวเองได้หรือเปล่า เสียศูนย์ไปเลย
ซีซั่น 5 การเผชิญหน้ากับสังคมในทุกวันนี้ทำให้เปลี่ยนไปทางไหน เรารู้จักการควบคุมตัวเองเพื่อให้อยู่ร่วมกับคนอื่น เพื่อให้ก้าวไปในหน้าที่การงาน เพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างไร สำเร็จมันอยู่ที่ตรงไหน เป้าหมายของเราคืออะไร “แท้จริงแล้วเราค้นหาอะไรในชีวิต” บางคนมีคำตอบ บางคนไม่รู้คำตอบจึงต้องออกเดินทางค้นหาคำตอบซึ่งอาจจะพบและอาจจะไม่พบ แต่บางคนก็ไม่ได้คำตอบแม้กระทั่งตอนตาย
ซีซั่น 6 เรียกว่าเป็นหัวข้อเอาปืนมายิงกันเลย ซีซั่นนี้ย้ำคำถามที่ผ่านมาด้วยประเด็นย่อยในตอนแรก ๆ ว่า “ตอนแก่และตอนตายเราอยากให้เราเป็นอย่างไร” ก่อนจะทุบหัวแรง ๆ ด้วย “อะไรคือสิ่งที่เราเชื่อ”
ความเชื่อหลายคนคงคิดถึงเรื่องศาสนามาก่อน แต่จริง ๆ แล้ว ความเชื่อมันครอบคลุมมากกว่าศาสนา ถ้าไม่มีความเชื่อมนุษย์ไม่กล้าทำอะไรเลย ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจ เพราะมนุษย์บริโภคความเชื่ออยู่ทุกวินาที คุณอาจจะคิดว่าไม่จริง คุณยอมรับในเหตุและผล แต่แท้จริงแล้ว คุณเชื่อว่าต้องมีเหตุจึงจะมีผลใช่หรือไม่ เราหาเหตุผลมากมายมาอธิบายสิ่งที่เราไม่เชื่อ เมื่ออธิบายได้เราก็ว่ามีเหตุผลเป็นวิทยาศาสตร์มีหลักการแต่เมื่ออธิบายไม่ได้เราจะบอกว่ามันไร้สาระ
ความเชื่อมันอยู่ใกล้กับเรามาก แค่เราออกจากบ้านไปเรียนหรือทำงาน เราคิดว่าปลอดภัยแม้ว่ามีสถิติที่ใช้อ้างว่าเราสามารถตายบนท้องถนนได้ เรากินข้าวที่เราคิดว่าปลอดภัยให้สารอาหารพลังกับเราแต่ก็สามารถเกิดสารพิษทำให้เราตายได้ เราล้มตัวลงนอนหลับตาและเราคิดว่าเราจะได้ตื่นในวันรุ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดคือ “เราเชื่อว่าเราจะมีชีวิตอยู่” เราจึงกล้าทำอะไรที่มีความน่าจะเป็นต่าง ๆ ที่ทำให้เราตายได้ทุกเมื่อ
ใช่ซีซั่นนี้กำลังบอกเราว่า “ความเชื่อของเราส่งผลให้เรากำลังทำอะไรอยู่” 
ซีซั่น 7 เนื้อเรื่องอ่อนลงมาก มันจะเรียกว่า "เกาเหลา" คือ เอาประเด็นที่เคยพูดมาแล้วทั้งหมดมีพูดซ้ำอีก ซึ่งไม่ได้ทำให้มีความรู้สึกว่าแปลกใหม่จาก 6 ภาคแรกเลย กว่าจะเข้าเรื่องประเด็นของภาคก็คือตอน 8 ซึ่งหนังกำลังพยายามบอกกับเราว่า “ทุกวันนี้เรากำลังทำอะไร ทำเพื่อใคร” ซึ่งคำตอบมักจะไม่ตัวเองก็ต้องคนที่รัก อย่างสวยหรูสังคมและมนุษยชาติ ซึ่งมันพื้น ๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไรกับยุคที่พยายามบอกให้มอบสิ่งดี ๆ กับคนอื่นบ้าง แต่ไอเดียย่อย ๆ กลับน่าสนใจกว่าคือ “ที่ไหนคือสถานที่ที่เราอยู่อย่างสบายใจมีความสุข” มนุษย์แสวงหาการมีอยู่ของตัวตนและแสวงหาที่ที่เรามีตัวตน

ซีซั่น 8 ช่วงต้นเหมือนจะบีบสร้างความสับสนว่าตัวละครไม่สามารถแก้ปัญหาได้แต่แล้ว... คว่ำคีย์บอร์ด มันยอมรับบทจบยากจริงๆ คิดได้ดีที่สุดคือคนเขียนบทพยายามหาทางออกให้ตัวละครมากที่สุดแล้ว แต่มองไปมองมามันตัดจบ!
สรุป เห็นคนดูซีรีส์จะไม่ชอบหนังสือ คนอ่านหนังสือจะไม่ชอบซีรีส์ อันนี้แมวน้ำไม่ฝันธงค่ะแล้วแต่ใครจะชอบก็แล้วกัน ความคิดแมวน้ำมันไม่ใช่แนวอาชญากรรม มันเป็นซีรีส์แนวจิตวิทยามากกว่า จิตวิทยาพัฒนาการที่สะท้อนมนุษย์วัยต่าง ๆ ผ่านตัวละครที่ไร้ความรู้สึก (ในภาคแรก เพราะจนถึงภาค 7 เหมือนบทหลุด ตัวละครจะเรียกมีพัฒนาการด้านอารมณ์ขึ้นใช่มั้ย มันก็ใช่แต่มันยังไงดี มันก็ไม่ใช่อ่ะมี้... มันเป็นคนปกติเกินไป แกล้งบ้านี่ยากจริง ๆ นะ)
เรื่องนี้หนักค่ะ ยิ่งคิดมากยิ่งหนัก ทั้งคำพูดตัวละครทั้งนัยแฝงในแต่ละตอน มันถามความเป็นมนุษย์ของเราตลอดเวลา 
เรา กับ “เด็กซ์เตอร์” ใครที่ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่?


เครดิต
https://www.netflix.com/th/title/70136126
https://kscopeonline.com/6023/a-e/dexter-review/
https://kscopeonline.com/wp-content/uploads/2016/10/Dexter.jpg

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Lapis Lazuli (ลาพิส ลาซูรี่)

โสเภณีถูกกฎหมาย (5) เกียรติและศักดิ์ศรี

การใช้ "ละ" และ "ล่ะ" ใช้อย่างไร