หินแท้ หินแต่ง หินที่มนุษย์สร้าง กับพลังหิน
หินแท้ หินแต่ง หินที่มนุษย์สร้าง กับพลังหิน
ในสายคนสะสมหิน (บางคนเรียกเล่นหิน) มีสายหนึ่งคือ “สายพลัง” คือเชื่อว่าหินมีพลังที่จะช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เรียกเงินทอง รักษาโรค สายนี้จะเคร่งครัดว่าหินที่นำมาใช้ต้องเป็นหินแท้ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งใดๆ จากมนุษย์และต้องเป็นหินจากธรรมชาติจริงๆ
จากที่ได้ดูสารคดีการทำเมืองพลอย การทำเมืองหิน ทำให้ผู้เขียนตระหนักได้ว่าหินธรรมชาติแท้ๆ ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งหรือไม่เคยผ่านมือมนุษย์เลยไม่มีหรอก
หากถามว่าทำไมถึงคิดเช่นนั้น ก่อนอื่นคงต้องดูคลิปที่เขาพาไปเที่ยวงานโชว์หิน
ในคลิปเราจะเห็นโพรงอเมทิสต์ (สีม่วง) และโพรงซิทริน (สีเหลือง)
อเมทิสต์ (Amethyst) อเมทริน (Ametrine) ซิทริน (Citrine) เป็นหินชนิดเดียวกัน อเมทิสปกติมีสีม่วงถ้าเจอความร้อนในโพรงหินตามธรรมชาติจากอเมทิสก็จะกลายเป็นซิทรินที่มีสีเหลือง แต่ถ้ายังร้อนไม่พอที่จะกลายเป็นซิทรินแล้วมนุษย์ดันไปขุดเจอก่อนอเมทิสก้อนนั้นก็จะมีสีกึ่งๆ ด้านหนึ่งม่วงด้านหนึ่งเหลืองและจะถูกเรียกว่าอเมทริน (การเปลี่ยนสีของอเมทิสเป็นซิทรินตามธรรมชาติใช้เวลานานมากเป็นร้อยๆ พันๆ ปี)
คลิปต่อมาเป็นวิธีทำอเมทรินจากโบลีเวียที่เป็นแหล่งอเมทรินที่มีชื่อเสียงที่สุด
ตามธรรมชาติโพรงหินซิทรินจะมีจำนวนน้อยกว่าอเมทิสมากแต่ในตลาดอัญมณีปัจจุบันซิทรินกลับเป็นที่ต้องการสูงเพราะสามารถนำมาใช้แทนแซฟไฟร์เหลือง (Yellow Sapphire) ซึ่งปัจจุบันแทบจะไม่เหลือแล้วคนในแวดวงอัญมณีจึงคิดหาวิธีที่จะผลิตซิทรินจำนวนมากออกมา วิธีง่ายๆ คือการเผาอเมทิสเพื่อให้เปลี่ยนสีกลายเป็นซิทริน
สายพลังระบุว่าซิทรินที่เกิดจากการเผาอเมทิสโดยฝีมือของมนุษย์จะไม่เหลือพลังจากธรรมชาติแล้วเอาไปบำบัดหรือใช้ทำอะไรต่อก็จะไม่ได้ผล ผู้เขียนก็อืม... ต้องเผาโดยกระบวนการทางธรรมชาติเท่านั้นสินะถึงจะได้ผล งั้นหินที่เห็นวางขายอยู่ทั่วไปนี่คงไม่เหลือพลังกันหมดแล้วล่ะ
เพราะการขุดเหมืองลงไปเพื่อเอาหินพวกนี้ขึ้นมาไม่ใช่ว่านำขึ้นมาแล้วจะเป็นก้อนผลึกสำเร็จรูปพร้อมใช้ทันที หินที่ถูกขุดขึ้นมาจะถูกนำไปคัด ตัด เจียระไน และยังมีหินอีกหลายชนิดที่จะถูกนำไปแต่งสีด้วยความร้อนและสารเคมีโดยฝีมือมนุษย์ เช่น พลอยต่างๆ ที่วางขายในท้องตลาดทุกวันนี้ก็ล้วนผ่านการแต่งสีจากมนุษย์มาแล้วทั้งสิ้น พลอยดิบเกือบทั้งหมดจะถูกนำไปเผาและแช่สารเคมีต่างๆ เพื่อนำมลทินและตำหนิออกจากเนื้อพลอยดิบ พลอยธรรมชาติแท้ๆ ที่ไม่ต้องผ่านการเผาแล้วสามารถนำไปเจียระไนขึ้นเรือนได้เลยจะเป็นเกรดโคตรแรร์สุดๆ ยากมากที่คนทั่วๆ ไปจะได้มาครอบครอง
หรือหากเป็นหินสี ถ้าไม่โดนแต่งสีก็ต้องเจอลงสารเคมีไม่มากก็น้อยไม่ว่าจะเป็นสารขัดเงา สารเคลือบผิว หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องผ่านการลงน้ำมันเคลือบหินไม่งั้นหินจะด้านไม่สวยพอจะดึงดูดให้คนซื้อ ขนาดหินแท่งๆ อย่าง ปริซึม หรือ เพนดูลัมที่ดูเหมือนจะไม่ต้องผ่านกระบวนการมากก็ล้วนแต่ต้องผ่านก็คัดเลือก ตัด ขัด เจียระไน แต่งรูปทรงเลียนแบบรูปร่างธรรมชาติมาเกือบทั้งนั้น
ถ้าได้ลองจับหินจริงๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการเลยจะรู้ว่าเนื้อผิวเขาจะคนละความรู้สึกกับหินที่วางขายอยู่
ถ้าสายพลังอยากได้หินแท้ๆ ธรรมชาติจริงๆ ต้องซื้อก้อนหินแบบก้อนๆ ถึงจะผ่านมือมนุษย์มาน้อยที่สุดเพราะอย่างมากคงแค่ผ่านกระบวนการขุด เจาะ ตัด ล้างน้ำ คัดเลือกและขนส่ง แต่หากเป็นหินที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการคุณอาจจะไม่ได้เห็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผิวนอกของหินสักเท่าไร
หากใครเป็นสายหินพลังอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ขอโทษล่วงหน้า อย่าผลักภาระไปที่หินหรือหวังพึ่งพลังของเขาเพียงอย่างเดียวเลย หินเป็นแค่เครื่องช่วยให้ระลึกถึงสิ่งที่ดี ช่วยให้ได้วิเคราะห์เรื่องราวที่ผ่านมาผ่านไปเวลาทำสมาธิและช่วยดึงจิตให้กลับมาสู่ภาวะปัจจุบันเมื่อได้เห็นและสัมผัสพวกเขา
พลังอยู่กับตัวคุณ การคิดดี พูดดี ทำดีจะช่วยพัฒนาจิตคุณให้มีพลังในการทำเรื่องต่างๆ หากคุณไม่คิดดี ไม่พูดดี ไม่ทำดี ต่อให้ครอบครองหินทั้งภูเขาก็ไม่อาจช่วยคุณได้ เช่นเดียวกับเหล่าเจ้าพ่อหรือนักการเมืองผู้ครอบครองพระเครื่องชื่อดังที่ว่าขลังนักหนาแต่สุดท้ายถูกยิงตายคารถกันมานักต่อนักนั่นแล
ในสายคนสะสมหิน (บางคนเรียกเล่นหิน) มีสายหนึ่งคือ “สายพลัง” คือเชื่อว่าหินมีพลังที่จะช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เรียกเงินทอง รักษาโรค สายนี้จะเคร่งครัดว่าหินที่นำมาใช้ต้องเป็นหินแท้ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งใดๆ จากมนุษย์และต้องเป็นหินจากธรรมชาติจริงๆ
จากที่ได้ดูสารคดีการทำเมืองพลอย การทำเมืองหิน ทำให้ผู้เขียนตระหนักได้ว่าหินธรรมชาติแท้ๆ ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งหรือไม่เคยผ่านมือมนุษย์เลยไม่มีหรอก
หากถามว่าทำไมถึงคิดเช่นนั้น ก่อนอื่นคงต้องดูคลิปที่เขาพาไปเที่ยวงานโชว์หิน
ในคลิปเราจะเห็นโพรงอเมทิสต์ (สีม่วง) และโพรงซิทริน (สีเหลือง)
อเมทิสต์ (Amethyst) อเมทริน (Ametrine) ซิทริน (Citrine) เป็นหินชนิดเดียวกัน อเมทิสปกติมีสีม่วงถ้าเจอความร้อนในโพรงหินตามธรรมชาติจากอเมทิสก็จะกลายเป็นซิทรินที่มีสีเหลือง แต่ถ้ายังร้อนไม่พอที่จะกลายเป็นซิทรินแล้วมนุษย์ดันไปขุดเจอก่อนอเมทิสก้อนนั้นก็จะมีสีกึ่งๆ ด้านหนึ่งม่วงด้านหนึ่งเหลืองและจะถูกเรียกว่าอเมทริน (การเปลี่ยนสีของอเมทิสเป็นซิทรินตามธรรมชาติใช้เวลานานมากเป็นร้อยๆ พันๆ ปี)
คลิปต่อมาเป็นวิธีทำอเมทรินจากโบลีเวียที่เป็นแหล่งอเมทรินที่มีชื่อเสียงที่สุด
ตามธรรมชาติโพรงหินซิทรินจะมีจำนวนน้อยกว่าอเมทิสมากแต่ในตลาดอัญมณีปัจจุบันซิทรินกลับเป็นที่ต้องการสูงเพราะสามารถนำมาใช้แทนแซฟไฟร์เหลือง (Yellow Sapphire) ซึ่งปัจจุบันแทบจะไม่เหลือแล้วคนในแวดวงอัญมณีจึงคิดหาวิธีที่จะผลิตซิทรินจำนวนมากออกมา วิธีง่ายๆ คือการเผาอเมทิสเพื่อให้เปลี่ยนสีกลายเป็นซิทริน
สายพลังระบุว่าซิทรินที่เกิดจากการเผาอเมทิสโดยฝีมือของมนุษย์จะไม่เหลือพลังจากธรรมชาติแล้วเอาไปบำบัดหรือใช้ทำอะไรต่อก็จะไม่ได้ผล ผู้เขียนก็อืม... ต้องเผาโดยกระบวนการทางธรรมชาติเท่านั้นสินะถึงจะได้ผล งั้นหินที่เห็นวางขายอยู่ทั่วไปนี่คงไม่เหลือพลังกันหมดแล้วล่ะ
เพราะการขุดเหมืองลงไปเพื่อเอาหินพวกนี้ขึ้นมาไม่ใช่ว่านำขึ้นมาแล้วจะเป็นก้อนผลึกสำเร็จรูปพร้อมใช้ทันที หินที่ถูกขุดขึ้นมาจะถูกนำไปคัด ตัด เจียระไน และยังมีหินอีกหลายชนิดที่จะถูกนำไปแต่งสีด้วยความร้อนและสารเคมีโดยฝีมือมนุษย์ เช่น พลอยต่างๆ ที่วางขายในท้องตลาดทุกวันนี้ก็ล้วนผ่านการแต่งสีจากมนุษย์มาแล้วทั้งสิ้น พลอยดิบเกือบทั้งหมดจะถูกนำไปเผาและแช่สารเคมีต่างๆ เพื่อนำมลทินและตำหนิออกจากเนื้อพลอยดิบ พลอยธรรมชาติแท้ๆ ที่ไม่ต้องผ่านการเผาแล้วสามารถนำไปเจียระไนขึ้นเรือนได้เลยจะเป็นเกรดโคตรแรร์สุดๆ ยากมากที่คนทั่วๆ ไปจะได้มาครอบครอง
หรือหากเป็นหินสี ถ้าไม่โดนแต่งสีก็ต้องเจอลงสารเคมีไม่มากก็น้อยไม่ว่าจะเป็นสารขัดเงา สารเคลือบผิว หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องผ่านการลงน้ำมันเคลือบหินไม่งั้นหินจะด้านไม่สวยพอจะดึงดูดให้คนซื้อ ขนาดหินแท่งๆ อย่าง ปริซึม หรือ เพนดูลัมที่ดูเหมือนจะไม่ต้องผ่านกระบวนการมากก็ล้วนแต่ต้องผ่านก็คัดเลือก ตัด ขัด เจียระไน แต่งรูปทรงเลียนแบบรูปร่างธรรมชาติมาเกือบทั้งนั้น
ถ้าได้ลองจับหินจริงๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการเลยจะรู้ว่าเนื้อผิวเขาจะคนละความรู้สึกกับหินที่วางขายอยู่
ถ้าสายพลังอยากได้หินแท้ๆ ธรรมชาติจริงๆ ต้องซื้อก้อนหินแบบก้อนๆ ถึงจะผ่านมือมนุษย์มาน้อยที่สุดเพราะอย่างมากคงแค่ผ่านกระบวนการขุด เจาะ ตัด ล้างน้ำ คัดเลือกและขนส่ง แต่หากเป็นหินที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการคุณอาจจะไม่ได้เห็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผิวนอกของหินสักเท่าไร
หากใครเป็นสายหินพลังอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ขอโทษล่วงหน้า อย่าผลักภาระไปที่หินหรือหวังพึ่งพลังของเขาเพียงอย่างเดียวเลย หินเป็นแค่เครื่องช่วยให้ระลึกถึงสิ่งที่ดี ช่วยให้ได้วิเคราะห์เรื่องราวที่ผ่านมาผ่านไปเวลาทำสมาธิและช่วยดึงจิตให้กลับมาสู่ภาวะปัจจุบันเมื่อได้เห็นและสัมผัสพวกเขา
พลังอยู่กับตัวคุณ การคิดดี พูดดี ทำดีจะช่วยพัฒนาจิตคุณให้มีพลังในการทำเรื่องต่างๆ หากคุณไม่คิดดี ไม่พูดดี ไม่ทำดี ต่อให้ครอบครองหินทั้งภูเขาก็ไม่อาจช่วยคุณได้ เช่นเดียวกับเหล่าเจ้าพ่อหรือนักการเมืองผู้ครอบครองพระเครื่องชื่อดังที่ว่าขลังนักหนาแต่สุดท้ายถูกยิงตายคารถกันมานักต่อนักนั่นแล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น