Juhan Shuttai เล่มนี้ต้องพิมพ์ซ้ำ
Juhan Shuttai เล่มนี้ต้องพิมพ์ซ้ำ
สำนักพิมพ์ Dexpress
ราคาปก 80 บาท
แนว ดราม่า, เบื้องหลังวงการการ์ตูนของญี่ปุ่น
จูฮัน ชุตไต - การพิมพ์ซ้ำ ก็คือ เป้าหมายของคนทำหนังสือ
เรื่องนี้ได้ดูเป็นซีรีส์ก่อน 10 ตอนจบ ซีีรีส์ได้รางวัลด้วยและเขียนบทใหม่จากมังงะได้ดีมาก สรุปเนื้อหาเรียบเรียงใหม่ได้ต่อเนื่องและน่าสนใจกว่าหนังสือการ์ตูน แต่... เรตติ้งไม่ค่อยดีนะจ๊ะ น่าเสียดายเพราะส่วนตัวชอบมากอยากเห็นมี ss2
ตัวหนังสือตอนนี้ออกมา 10 เล่มแล้ว (ในไทยออกเล่ม 2 แล้ว) ไม่รู้เพราะการแปลหรือต้นฉบับเองอ่านแล้วงง ถ้าไม่ได้ดูซีรีส์มาก่อนจะอะไรฟ่ะ นี่คือตัวอะไรทำไมออกมาตอนนี้ คือที่มาที่ไปของตัวละครไม่เป็นขั้นตอนและเด่นชัดเจนแบบในซีรีส์
เรื่องย่อ นางเอกเป็นอดีตนักกีฬายูโดที่เกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่สามารถทำงานอาชีพนักยูโดได้ต่อจึงเปลี่ยนมาสมัครงานบรรณาธิการเพราะนึกถึงสิ่งที่เป็นแรงผลักดันตอนเด็กที่ทำให้อยากเป็นนักกีฬาและมีกำลังใจฝึกซ้อมแข่งขันต่อก็คือการ์ตูนที่ได้อ่าน
จากนักกีฬายูโดมาเป็นบรรณาธิการจึงทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้วงการการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่นผ่านตัวนางเอก รายละเอียดซีรีส์กับการ์ตูนมีส่วนเหมือนและต่างกัน (แต่ไม่ต่างกันมาก เป็นส่วนปลีกย่อยที่ไม่ได้พูดถึงกับพูดถึงแล้วถูกตัดออกไป)
จากนักกีฬายูโดมาเป็นบรรณาธิการจึงทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้วงการการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่นผ่านตัวนางเอก รายละเอียดซีรีส์กับการ์ตูนมีส่วนเหมือนและต่างกัน (แต่ไม่ต่างกันมาก เป็นส่วนปลีกย่อยที่ไม่ได้พูดถึงกับพูดถึงแล้วถูกตัดออกไป)
ส่วนตัวเองเพราะทำงานสายหนังสือการ์ตูนดูและอ่านเลยสะอึกอินกับเนื้อหา เรียกน้ำตาได้หลายตอนเลย
สู้โว้ย...!
เครดิต
- https://ja.wikipedia.org/wiki/重版出来!
- http://www.soccersuck.com/boards/topic/1392589
Juhan Shuttai จูฮัน ชุตไต - การพิมพ์ซ้ำ ก็คือ เป้าหมาย #บกเจ้าหมีน้อย
ทุกคนในวงการสิ่งพิมพ์ล้วนแต่มีความสุข
ฉันอยากทำอย่างนั้น อยากจะมีส่วนร่วมในการสร้างการ์ตูนที่เป็นภาษากลางให้เผยแพร่ออกไปทั่วโลก
อ.คาโน จิโกโร่ - "ความมุ่งมั่นเพื่อก่อให้เกิดพลังที่ดี" "นำพาตัวเองและคนรอบข้างให้เจริญเติบโต" ใช้พลังและความสามารถของตัวเองเพื่อก่อให้เกิดสิ่งที่ดี ให้เกียรติและรู้สึกขอบคุณผู้อื่นอยู่เสมอ สร้างความไว้วางใจและอยู่ด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พวกเราอยู่ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ก็เสมือนอยู่ในโลกแห่งสงครามเช่นกัน
ตอนที่ทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร? "มุ" ความรู้สึกว่างเปล่าที่มุ่งทำแต่สิ่งนั้น
สิ่งที่ฉันพยายามสื่อในงานของฉัน มนุษย์เป็นสิ่งที่มีค่าและสวยงาม อ่อนโยนและล้ำค่า
การเขียนการ์ตูนรายสัปดาห์ก็เหมือนการวิ่งมาราธอนไปโดยไม่เห็นเส้นชัย ไม่เหมือนกับการวิ่งผลัดไม่สามารถจะส่งไม้ต่อไปให้ใครได้ ไม่เหมือนฟุตบอลที่จะส่งลูกไปให้เพื่อนร่วมทีมได้ มีเพียงแค่ตัวเองที่จะต้องวิ่งผ่านไปเพื่อส่งต้นฉบับให้ได้ทุกสัปดาห์ พอใกล้ที่จะเอื้อมมือไปคว้าชัยชนะ กลับกลายเป็นว่าต้นฉบับของอาทิตย์หน้าก็มาจ่อรออยู่ แต่ละอาทิตย์มีแต่การวาดภาพและกลิ่นหมึก เหมือนเป็นการวิ่งไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในชีวิตคนเรานะ สิ่งที่สูญเปล่าไม่ได้มีแค่อย่างเดียวหรอกนะ อยากจะทำอะไรต้องกล้าที่จะพูดออกไป
ถ้าไม่มีจุดยืนก็จะก้าวต่อไปไม่ได้
ยิ่งพยายามมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกถึงภาระที่ต้องแบกรับเอาไว้ แต่ฉันกลับรู้สึกดี เพราะอย่างนั้น ฉันจึงพยายามไปเรื่อยๆ ทำให้ดีที่สุด เพื่อทุกคนจะได้มีความสุขไปพร้อมกับฉัน
สินค้าของพวกเราคือหนังสือ สิ่งที่เรากำลังรับมือคือผู้คน อย่าลังเลที่จะสื่อสารออกไป
ไม่มีสิ่งไหนที่ขายตัวมันเองได้เบื้องหลังนั้นคือการทำงานเพื่อให้คนที่สนใจได้ซื้อมันไป
นี่เป็นครั้งแรกที่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร
การ์ตูนที่น่าสนใจไม่สามารถขายตัวมันเองได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน บรรณาธิการ ฝ่ายขาย และหน้าร้าน มันก็จะประสบความสำเร็จได้
จะมามัวยึดติดกับความเห็นของผู้อ่านไม่ได้ พวกเราไม่เคยทำงานแบบประจบคนอ่านหรอก ทำงานกับนักเขียนเหมือนวิ่งสามขาผลิตงานออกมาโดยไม่ประจบหรือคล้อยตามคนอ่าน แต่ต้องนำความสนุกจากผู้เขียนไปถึงผู้อ่านต่างหาก
ในฐานะบรรณาธิการก็อยากจะเป็นคนที่เข้าใจอาจารย์มากที่สุดเหมือนกัน
การ์ตูนเรื่องยาวต้องการเวลาแบบนี้ การจะบินให้สูงมากขึ้นก็ต้องดึงลงมาให้ต่ำมากที่สุดเหมือนกันกับคลื่นที่ม้วนขึ้นลง มันเป็นประเด็นหลักของเนื้อเรื่องแบบต่อเนื่อง
การเขียนการ์ตูนภาพกับเนื้อเรื่องต้องได้สัดส่วนกัน
เธอคิดว่าใครเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้กับเรา? คนอ่านคือคนที่จ่ายเงินเดือนให้กับเรา เพื่อความสนุกสนานของคนอ่านเราต้องนำแต่ผลงานที่มีคุณภาพไปให้เขาเท่านั้น
บรรณาธิการอย่างฉันจะไม่ยอมให้คนอ่านหมดศรัทธาในตัวอาจารย์หรอกนะคะ
ผมดูหมิ่นคนอ่านโดยไม่สนใจผลการสำรวจ
การวิ่งสามขามันหมายถึง ความเข้าใจ, ความใกล้ชิด
ชูชีพสำหรับนักเขียนการ์ตูนก็คือคนอ่าน
หน้าใหม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาชี้แนะอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
หน้าใหม่ไม่ว่าจะอายุแค่ไหนก็สามารถเป็นหน้าใหม่ได้
ไข่ทองคำไม่มีตั้งแต่แรก มีแต่ไข่ธรรมดาที่ต้องขัดเกลาจนเปล่งประกายเป็นทองคำ
ได้หรือไม่ได้ใครเป็นคนตัดสิน?
ครั้งแรกกำแพงย่อมสูงเสมอ
ถ้าต้องการแต่งานที่ขายได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีเอกลักษณ์ของศิลปินแค่ทำงานไปตามความต้องการของตลาด
หน้าใหม่ต้องการผลตอบรับที่รวดเร็วไม่เช่นนั้นพลังในการเขียนจะค่อยๆ ลดลง
ผู้ช่วยนักเขียน 5 คนจะมีแค่ 1 คนที่ได้เดบิวส์ มันต้องใช้แรงกายและแรงใจมากในการปีข้ามภูเขาสูง
ถ้าความฝันเป็นจริงได้ก็ดีแต่การวิ่งไล่ความฝันที่ไม่สามารถเป็นจริงมันยากมาก มันเป็นเรื่องที่ทรมาน
มันแย่มากที่มีคนไม่เชื่อมันในตัวฉัน ฉันเองก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองมีพรสวรรค์ แต่ในความจริงแล้วฉันเองก็อยากเชื่อในตัวเองอย่างที่สุด เชื่อมั่นในพลังของตัวเอง เพราะนี่แหละคือพลังที่ทำให้ฉันสามารถข้ามผ่านกำแพงนั้นไปได้
การเข้าใจกันและเวลามันก็เป็นส่วนหนึ่งเหมือนกัน
การพบกันของบรรณาธิการกับนักเขียนการ์ตูนจะว่าไปก็คือ โชคชะตา
บรรณาธิการและนักเขียนเป็นความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ
งานเขียนการ์ตูนแม้ว่ามีพรสวรรค์แต่ก็มีอุปสรรคให้ฝ่าฟันอีกมากมาย
หนังสือที่ทำกำไรไม่ได้จะไม่ได้พิมพิ์ซ้ำครั้งที่ 2 การคำนวนต้นทุนต่ำเข้าไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
คนเราเก็บสะสมโชคได้
คิดให้ดีว่าต้องการอะไรแล้วทำให้มันเกิดขึ้นซะ
ตัวละครเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นแต่ทำไมทำให้ฉันร้องไห้ถึงขนาดนี้
อย่ายอมแพ้ต่อฝน อย่ายอมแพ้ต่อลม อย่ายอมแพ้ต่อหิมะ หรือ ลมในฤดูร้อน ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง
อย่าพ่ายแพ้ต้องความต้องการ อย่าขุ่นเคืองโดยไร้เหตุ แต่จงยิ้มแย้มอยู่เสมอ
ข้าวกล้องสี่ชามในแต่ละวัน ซุปมิโสะและผักที่มีกิน อย่านึกถึงแต่ตนเองแต่ให้นึกถึงผู้อื่นก่อนเสมอ
เฝ้าดู รับฟัง ทำความเข้าใจ
และอย่าลืมว่าต้นสนที่ให้ร่มเงากลางป่านั้นจะเป็นหลังคาสำหรับกระท่อมได้
ถ้ามีเด็กน้อยป่วยในทิศตะวันออกให้จงไปพยาบาลเด็กเหล่านั้น ถ้ามีแม่ที่เหน็ดเหนื่อยในทิศตะวันตกจงไปช่วยเธอแบกฟ่อนข้าวขึ้นมา ถ้ามีใครใกล้ตายในทิศใต้จงไปบอกเขาว่าไม่ต้องกลัว ถ้ามีการหมาดหมางทางทิศเหนือจงไปบอกให้เขาทิ้งความกังวลนั้นไปเสีย
เมื่อภัยแล้งมาจงเสียน้ำตาแห่งความโศกเศร้า
เมื่อฤดูร้อนกลับหนาวเหน็บจงปล่อยความผิดหวังให้ผ่านไป
เป็นคนที่ไม่มีใครจำได้ ไม่ต้องได้รับการเยินยอ ไม่ต้องได้รับการว่ากล่าว จงเป็นคนแบบนั้น คนที่ฉันอยากเป็น
จะฟังหรือไม่ฟังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนๆ นั้น
ตามโลกให้ทันโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องราว เวทมนตร์ไม่มีอยู่จริงมีแต่การคิดแล้วคิดอีกและทำให้เต็มที่ ให้ถามตัวเองว่าคุณภูมิใจในงานของตัวเองหรือยัง อยากให้โลกเห็นงานชิ้นนั้นมั้ยแล้วส่งงานชิ้นโบว์แดงออกไปให้โลกเห็น
หนังสืออาจจะไม่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังสือจะไม่มีคุณค่าเสมอไป คนเราอาจมีชีวิตอยู่ได้แม้ไม่ได้อ่านหนังสือเลย แต่หนังสือเพียงเล่มเดียวนั้นก็เปลี่ยนชีวิตคนได้
หนังสือทำให้ผมเป็นมนุษย์ขึ้นมา
ผมจะไม่ลืมภาพนี้
การพบกันของบก.และนักเขียนเป็นเหมือนชะตาลิขิตไว้ จากแรกเริ่มที่ได้พบกันท่ามกลางฝูงชนมากมายนั้น เธอจะนึกถึงอีกคนหนึ่งด้วยพลังทั้งหมดที่มีอยู่ จากนั้น ตอบรับความรู้สึกของอีกฝ่ายสุดพลัง นั่นล่ะ ถึงจะไปด้วยกันได้
นักเขียนที่จะหายไปจากวงการเพราะบก. ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นนักเขียนที่วาดตามที่บก. บอกอุทิศตัวให้กับบก. หยุดที่จะใช้ความคิดของตัวเองและกลายเป็นแค่เครื่องมือ
คุณเขียนการ์ตูนเพื่อจุดประสงค์อะไร คุณต้องอุทิศตัวให้กับสิ่งนั้น
ต่อให้นักเขียนทุ่มเท บก.กระตือรือร้นแต่สิ่งที่บริษัทต้องการคือจำนวนเท่านั้น
ฉันสงสัยว่าผู้คนมากมายบนโลกนี้จะทำตามอุดมคติเพียงคนเดียวได้หรือ?
ตลอดเวลาที่ฉันทำงาน ฉันคิดแล้วคิดอีก ฉันรักการ์ตูน ฉันอยากวาดการ์ตูน ฉันไม่อยากเกลียดการ์ตูน ฉันไม่อยากถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการ์ตูนที่ฉันรัก
คำพูดมีพลังมาก
การจะผลิตผลงานออกมาได้ เธอจะต้องค้นลึกเข้าไปในจิตใจของตัวเอง ไม่ว่ามันจะน่าเกลียดหรือน่าสงสารแค่ไหน เธอจะต้องเผชิญหน้ากับมัน
เป้าหมายของผมคือนักเขียนการ์ตูน มันเป็นสิ่งพิเศษและผมก็อยากเป็นคนพิเศษ
ที่ผ่านมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กผมคิดแต่เรื่องการ์ตูนเท่านั้น
ถ้าไม่เจอบก.ที่เข้าใจ มันก็คงเป็นกำแพงที่นักเขียนจะต้องปีนข้ามผ่านไปให้ได้ด้วยตัวเอง
พวกศิลปินก็เหมือนกันคลื่น บรรณาธิการต้องรอดูและประเมินสถานการณ์ได้
นักเขียนที่มีความรู้สึกร่วมมากเกินไปไม่ควรจะเข้าไปอ่านความคิดเห็นบนเน็ทเพราะจะส่งผลกระทบต่อการทำงานชิ้นต่อไป
นักเขียนควรมีจุดแข็งหนึ่งในนั้นคือการมีความรู้สึกร่วม พยายามทำความเข้าใจและหาเหตุผล
เราทุกคนมีปีกที่มองไม่เห็นเป็นของตัวเอง
ถ้าเราทำดีต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่อยากทำก็จะได้ทำ
ถ้าโครงเรื่องเป็นแกนตั้ง ตัวละครต้องเป็นแกนนอนค้านเรื่องให้สมดุล
ด้วยปากกาเพียงเล่มเดียวสามารถทำให้คนนับล้านรู้สึกร่วมไปด้วยได้
เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้แต่ต้องดำรงอยู่ต่อไปให้ได้
โลกของการ์ตูนก็คือการขายฝัน
แม่ของหนูไม่ได้เสียสละความฝันหรอกนะ เพียงแต่มีความฝันเดียวกับพ่อของหนู
ถึงจะลำบากแต่ก็ได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นการตอบแทน
ยุคสมัยเปลี่ยน คนเราก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย แต่บางสิ่งกลับไม่เปลี่ยน
ถ้าสามารถทำลายกำแพงออกมาได้ก็จะเป็นอิสระ
เรื่องความรักมันไม่ควรจะเป็นเหตุเป็นผล ถ้าเกิดรักขึ้นมาแล้วแม้จะรู้ว่ามันผิดแต่ก็จะทำอะไรสักอย่างโดยไม่คิด
เวลาที่ผ่านมาความสำเร็จกับความผิดพลาดอย่างไหนมันมากกว่ากัน
การพิมพ์เรื่องยาวไม่เหมือนการพิมพ์เรื่องสั้นตอนเดียวจบ แต่ละสัปดาห์ แต่ละหน้าที่ถูกตีพิมพ์ ผู้อ่านยอมจ่ายเพื่อมันถ้ามันสมราคา
การมองไปที่คนเหล่านั้นถึงเป็นแค่การมองผ่านๆ แต่มันทำให้เกิดเนมในหัวตลอดเวลามันทำให้ผมอยากวาดมันให้เสร็จไวๆ
นักเขียนเขียนออกมาจากความต้องการส่วนลึกแม้กระทั่งตัวเองก็อาจจะไม่รู้ว่ากำลังพยายามจะสื่ออะไรออกมา ไม่เข้าใจที่มาของความต้องการนั้น แต่ถ้าบก.ไม่เข้าใจด้วยผลงานนั้นคงไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะบอกว่าทำงานด้วยกันแต่บก.จะกลายเป็นแค่คนอ่านเท่านั้น
มันจะมีบางครั้งที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องกับความยุ่งยากของคนอื่นแต่ก็ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้
การประสบความสำเร็จต้องรักษาความสมดุลไว้ด้วยความอดทนและพยายามมากขึ้น
สิ่งที่ได้ฟังมาบางครั้งก็ต้องปล่อยวางเพื่อรักษาสิ่งที่สำคัญเอาไว้
นักเขียนไม่ใช่ทาสนิตยสาร
การทำลายความสัมพันธ์กับสิ่งที่คิดว่าเป็นปฎิหาริย์มันเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก
นายน่ะมักจะมีเหตุผลเสมอ นั่นมันกลับทำให้นายน่าสงสาร
กรุณาจบเรื่องนี้อย่างมีความสุข จบลงอย่างมีคุณภาพ
ฉันไม่สามารถวาดอะไรออกมาได้ถ้าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น
จะเป็นอัญมณีที่มีค่า หรือว่าจะเป็นก้อนหิน ขึ้นอยู่กับบก.
พวกเราไม่สามารถนำเสนอเรื่องที่แม้แต่เราเองยังไม่เข้าใจแก่ผู้อ่านได้
เพราะความเป็นมนุษย์ที่ตัวเล็กและอ่อนแอทำให้เหมือนไร้ทางต่อสู้ แต่เขากลับต่อสู้กับความกลัวภายในจิตใจของตัวเองและเดิมพันการต่อสู้ด้วยชีวิตของเขา เพราะทั้งอ่อนแอและสิ้นหวังจึงพยายามที่จะเป็นอิสระจากการถูกควบคุมด้วยความกลัวเหล่านั้น
คนเราต่างก็ต่อสู้เพื่อบางอย่างวันแล้ววันเล่า
ในที่สุดพวกเราก็ได้รับอนุญาตให้พิมพ์เรื่องยาวแต่นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรอกมันเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก
ผลกำไรมันขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว นั่นหมายความว่าจะกลายเป็นสินค้าที่ไม่มีมูลค่า
พรสวรรค์กับความสามารถเชิงพาณิชย์น่ะ มันคนละเรื่องกัน
การใช้ผู้ช่วยก็เป็นส่วนหนึ่งในงานเหมือนกัน
นักเขียนที่เชื่อมโยงตัวเองกับเรื่องมากเกินไปต้องระวังอย่าให้ใส่ความเป็นตัวเองมากเกินไป นักเขียนที่ใส่ความเจ็บปวดของตัวเองลงไปในงานเขียนจะทำให้ความสมดุลทางจิตวิญญาณสูญหายไป จะต้องมีคนคอยป้องกันพวกเขาจากเรื่องพวกนี้ด้วย
มันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่ต้องการจะทำงานให้สมบูรณ์ แต่หลายสิ่งไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จเพียงลำพัง
ฉันจมในความคิดที่ฟุ้งซ่านกว่าจะรู้ตัวว่าได้ไปควบคุมเขา
ผมวาดการ์ตูนก็เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อคนอื่น มันผิดหรือไม่ดีใช่มั้ย? ไม่หรอก เธอไม่ผิดที่ทำเพื่อตัวเอง ปกติฉันเองก็ทำโดยไม่ขึ้นกับใคร
คนส่วนใหญ่ไม่คิดถึงน้ำ ลองจินตนาการถึงจำนวนน้ำที่เรามองไม่เห็นสิ
ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้
สิ่งที่ต้องการคือการวาดการ์ตูนที่สนุกเท่านั้น
ในวันที่คุณรู้สึกสับสนตอนไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนได้โปรดจดจำเวลาเหล่านั้นไว้ ช่วงเวลานั้นมันจะทำให้หัวใจคุณหวั่นไหว
ไม่ว่าคุณจะทำงานเพื่อใครบางคน หรือทำงานเพื่อตนเอง มันไม่สำคัญว่าคุณจะทำเพื่ออะไร ถ้าทุกคนร่วมมือกันแล้วนั้นโลกต้องเปลี่ยนไปแน่นอน นี่คือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้ดำเนินต่อไป จงทำวันนี้ให้ดีและก้าวต่อไป
จูฮัน ชุตไต
ทุกคนในวงการสิ่งพิมพ์ล้วนแต่มีความสุข
ฉันอยากทำอย่างนั้น อยากจะมีส่วนร่วมในการสร้างการ์ตูนที่เป็นภาษากลางให้เผยแพร่ออกไปทั่วโลก
อ.คาโน จิโกโร่ - "ความมุ่งมั่นเพื่อก่อให้เกิดพลังที่ดี" "นำพาตัวเองและคนรอบข้างให้เจริญเติบโต" ใช้พลังและความสามารถของตัวเองเพื่อก่อให้เกิดสิ่งที่ดี ให้เกียรติและรู้สึกขอบคุณผู้อื่นอยู่เสมอ สร้างความไว้วางใจและอยู่ด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พวกเราอยู่ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ก็เสมือนอยู่ในโลกแห่งสงครามเช่นกัน
ตอนที่ทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร? "มุ" ความรู้สึกว่างเปล่าที่มุ่งทำแต่สิ่งนั้น
สิ่งที่ฉันพยายามสื่อในงานของฉัน มนุษย์เป็นสิ่งที่มีค่าและสวยงาม อ่อนโยนและล้ำค่า
การเขียนการ์ตูนรายสัปดาห์ก็เหมือนการวิ่งมาราธอนไปโดยไม่เห็นเส้นชัย ไม่เหมือนกับการวิ่งผลัดไม่สามารถจะส่งไม้ต่อไปให้ใครได้ ไม่เหมือนฟุตบอลที่จะส่งลูกไปให้เพื่อนร่วมทีมได้ มีเพียงแค่ตัวเองที่จะต้องวิ่งผ่านไปเพื่อส่งต้นฉบับให้ได้ทุกสัปดาห์ พอใกล้ที่จะเอื้อมมือไปคว้าชัยชนะ กลับกลายเป็นว่าต้นฉบับของอาทิตย์หน้าก็มาจ่อรออยู่ แต่ละอาทิตย์มีแต่การวาดภาพและกลิ่นหมึก เหมือนเป็นการวิ่งไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในชีวิตคนเรานะ สิ่งที่สูญเปล่าไม่ได้มีแค่อย่างเดียวหรอกนะ อยากจะทำอะไรต้องกล้าที่จะพูดออกไป
ถ้าไม่มีจุดยืนก็จะก้าวต่อไปไม่ได้
ยิ่งพยายามมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกถึงภาระที่ต้องแบกรับเอาไว้ แต่ฉันกลับรู้สึกดี เพราะอย่างนั้น ฉันจึงพยายามไปเรื่อยๆ ทำให้ดีที่สุด เพื่อทุกคนจะได้มีความสุขไปพร้อมกับฉัน
สินค้าของพวกเราคือหนังสือ สิ่งที่เรากำลังรับมือคือผู้คน อย่าลังเลที่จะสื่อสารออกไป
ไม่มีสิ่งไหนที่ขายตัวมันเองได้เบื้องหลังนั้นคือการทำงานเพื่อให้คนที่สนใจได้ซื้อมันไป
นี่เป็นครั้งแรกที่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร
การ์ตูนที่น่าสนใจไม่สามารถขายตัวมันเองได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน บรรณาธิการ ฝ่ายขาย และหน้าร้าน มันก็จะประสบความสำเร็จได้
จะมามัวยึดติดกับความเห็นของผู้อ่านไม่ได้ พวกเราไม่เคยทำงานแบบประจบคนอ่านหรอก ทำงานกับนักเขียนเหมือนวิ่งสามขาผลิตงานออกมาโดยไม่ประจบหรือคล้อยตามคนอ่าน แต่ต้องนำความสนุกจากผู้เขียนไปถึงผู้อ่านต่างหาก
ในฐานะบรรณาธิการก็อยากจะเป็นคนที่เข้าใจอาจารย์มากที่สุดเหมือนกัน
การ์ตูนเรื่องยาวต้องการเวลาแบบนี้ การจะบินให้สูงมากขึ้นก็ต้องดึงลงมาให้ต่ำมากที่สุดเหมือนกันกับคลื่นที่ม้วนขึ้นลง มันเป็นประเด็นหลักของเนื้อเรื่องแบบต่อเนื่อง
การเขียนการ์ตูนภาพกับเนื้อเรื่องต้องได้สัดส่วนกัน
เธอคิดว่าใครเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้กับเรา? คนอ่านคือคนที่จ่ายเงินเดือนให้กับเรา เพื่อความสนุกสนานของคนอ่านเราต้องนำแต่ผลงานที่มีคุณภาพไปให้เขาเท่านั้น
บรรณาธิการอย่างฉันจะไม่ยอมให้คนอ่านหมดศรัทธาในตัวอาจารย์หรอกนะคะ
ผมดูหมิ่นคนอ่านโดยไม่สนใจผลการสำรวจ
การวิ่งสามขามันหมายถึง ความเข้าใจ, ความใกล้ชิด
ชูชีพสำหรับนักเขียนการ์ตูนก็คือคนอ่าน
หน้าใหม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาชี้แนะอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
หน้าใหม่ไม่ว่าจะอายุแค่ไหนก็สามารถเป็นหน้าใหม่ได้
ไข่ทองคำไม่มีตั้งแต่แรก มีแต่ไข่ธรรมดาที่ต้องขัดเกลาจนเปล่งประกายเป็นทองคำ
ได้หรือไม่ได้ใครเป็นคนตัดสิน?
ครั้งแรกกำแพงย่อมสูงเสมอ
ถ้าต้องการแต่งานที่ขายได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีเอกลักษณ์ของศิลปินแค่ทำงานไปตามความต้องการของตลาด
หน้าใหม่ต้องการผลตอบรับที่รวดเร็วไม่เช่นนั้นพลังในการเขียนจะค่อยๆ ลดลง
ผู้ช่วยนักเขียน 5 คนจะมีแค่ 1 คนที่ได้เดบิวส์ มันต้องใช้แรงกายและแรงใจมากในการปีข้ามภูเขาสูง
ถ้าความฝันเป็นจริงได้ก็ดีแต่การวิ่งไล่ความฝันที่ไม่สามารถเป็นจริงมันยากมาก มันเป็นเรื่องที่ทรมาน
มันแย่มากที่มีคนไม่เชื่อมันในตัวฉัน ฉันเองก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองมีพรสวรรค์ แต่ในความจริงแล้วฉันเองก็อยากเชื่อในตัวเองอย่างที่สุด เชื่อมั่นในพลังของตัวเอง เพราะนี่แหละคือพลังที่ทำให้ฉันสามารถข้ามผ่านกำแพงนั้นไปได้
การเข้าใจกันและเวลามันก็เป็นส่วนหนึ่งเหมือนกัน
การพบกันของบรรณาธิการกับนักเขียนการ์ตูนจะว่าไปก็คือ โชคชะตา
บรรณาธิการและนักเขียนเป็นความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ
งานเขียนการ์ตูนแม้ว่ามีพรสวรรค์แต่ก็มีอุปสรรคให้ฝ่าฟันอีกมากมาย
หนังสือที่ทำกำไรไม่ได้จะไม่ได้พิมพิ์ซ้ำครั้งที่ 2 การคำนวนต้นทุนต่ำเข้าไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
คนเราเก็บสะสมโชคได้
คิดให้ดีว่าต้องการอะไรแล้วทำให้มันเกิดขึ้นซะ
ตัวละครเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นแต่ทำไมทำให้ฉันร้องไห้ถึงขนาดนี้
อย่ายอมแพ้ต่อฝน อย่ายอมแพ้ต่อลม อย่ายอมแพ้ต่อหิมะ หรือ ลมในฤดูร้อน ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง
อย่าพ่ายแพ้ต้องความต้องการ อย่าขุ่นเคืองโดยไร้เหตุ แต่จงยิ้มแย้มอยู่เสมอ
ข้าวกล้องสี่ชามในแต่ละวัน ซุปมิโสะและผักที่มีกิน อย่านึกถึงแต่ตนเองแต่ให้นึกถึงผู้อื่นก่อนเสมอ
เฝ้าดู รับฟัง ทำความเข้าใจ
และอย่าลืมว่าต้นสนที่ให้ร่มเงากลางป่านั้นจะเป็นหลังคาสำหรับกระท่อมได้
ถ้ามีเด็กน้อยป่วยในทิศตะวันออกให้จงไปพยาบาลเด็กเหล่านั้น ถ้ามีแม่ที่เหน็ดเหนื่อยในทิศตะวันตกจงไปช่วยเธอแบกฟ่อนข้าวขึ้นมา ถ้ามีใครใกล้ตายในทิศใต้จงไปบอกเขาว่าไม่ต้องกลัว ถ้ามีการหมาดหมางทางทิศเหนือจงไปบอกให้เขาทิ้งความกังวลนั้นไปเสีย
เมื่อภัยแล้งมาจงเสียน้ำตาแห่งความโศกเศร้า
เมื่อฤดูร้อนกลับหนาวเหน็บจงปล่อยความผิดหวังให้ผ่านไป
เป็นคนที่ไม่มีใครจำได้ ไม่ต้องได้รับการเยินยอ ไม่ต้องได้รับการว่ากล่าว จงเป็นคนแบบนั้น คนที่ฉันอยากเป็น
จะฟังหรือไม่ฟังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนๆ นั้น
ตามโลกให้ทันโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องราว เวทมนตร์ไม่มีอยู่จริงมีแต่การคิดแล้วคิดอีกและทำให้เต็มที่ ให้ถามตัวเองว่าคุณภูมิใจในงานของตัวเองหรือยัง อยากให้โลกเห็นงานชิ้นนั้นมั้ยแล้วส่งงานชิ้นโบว์แดงออกไปให้โลกเห็น
หนังสืออาจจะไม่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังสือจะไม่มีคุณค่าเสมอไป คนเราอาจมีชีวิตอยู่ได้แม้ไม่ได้อ่านหนังสือเลย แต่หนังสือเพียงเล่มเดียวนั้นก็เปลี่ยนชีวิตคนได้
หนังสือทำให้ผมเป็นมนุษย์ขึ้นมา
ผมจะไม่ลืมภาพนี้
การพบกันของบก.และนักเขียนเป็นเหมือนชะตาลิขิตไว้ จากแรกเริ่มที่ได้พบกันท่ามกลางฝูงชนมากมายนั้น เธอจะนึกถึงอีกคนหนึ่งด้วยพลังทั้งหมดที่มีอยู่ จากนั้น ตอบรับความรู้สึกของอีกฝ่ายสุดพลัง นั่นล่ะ ถึงจะไปด้วยกันได้
นักเขียนที่จะหายไปจากวงการเพราะบก. ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นนักเขียนที่วาดตามที่บก. บอกอุทิศตัวให้กับบก. หยุดที่จะใช้ความคิดของตัวเองและกลายเป็นแค่เครื่องมือ
คุณเขียนการ์ตูนเพื่อจุดประสงค์อะไร คุณต้องอุทิศตัวให้กับสิ่งนั้น
ต่อให้นักเขียนทุ่มเท บก.กระตือรือร้นแต่สิ่งที่บริษัทต้องการคือจำนวนเท่านั้น
ฉันสงสัยว่าผู้คนมากมายบนโลกนี้จะทำตามอุดมคติเพียงคนเดียวได้หรือ?
ตลอดเวลาที่ฉันทำงาน ฉันคิดแล้วคิดอีก ฉันรักการ์ตูน ฉันอยากวาดการ์ตูน ฉันไม่อยากเกลียดการ์ตูน ฉันไม่อยากถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการ์ตูนที่ฉันรัก
คำพูดมีพลังมาก
การจะผลิตผลงานออกมาได้ เธอจะต้องค้นลึกเข้าไปในจิตใจของตัวเอง ไม่ว่ามันจะน่าเกลียดหรือน่าสงสารแค่ไหน เธอจะต้องเผชิญหน้ากับมัน
เป้าหมายของผมคือนักเขียนการ์ตูน มันเป็นสิ่งพิเศษและผมก็อยากเป็นคนพิเศษ
ที่ผ่านมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กผมคิดแต่เรื่องการ์ตูนเท่านั้น
ถ้าไม่เจอบก.ที่เข้าใจ มันก็คงเป็นกำแพงที่นักเขียนจะต้องปีนข้ามผ่านไปให้ได้ด้วยตัวเอง
พวกศิลปินก็เหมือนกันคลื่น บรรณาธิการต้องรอดูและประเมินสถานการณ์ได้
นักเขียนที่มีความรู้สึกร่วมมากเกินไปไม่ควรจะเข้าไปอ่านความคิดเห็นบนเน็ทเพราะจะส่งผลกระทบต่อการทำงานชิ้นต่อไป
นักเขียนควรมีจุดแข็งหนึ่งในนั้นคือการมีความรู้สึกร่วม พยายามทำความเข้าใจและหาเหตุผล
เราทุกคนมีปีกที่มองไม่เห็นเป็นของตัวเอง
ถ้าเราทำดีต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่อยากทำก็จะได้ทำ
ถ้าโครงเรื่องเป็นแกนตั้ง ตัวละครต้องเป็นแกนนอนค้านเรื่องให้สมดุล
ด้วยปากกาเพียงเล่มเดียวสามารถทำให้คนนับล้านรู้สึกร่วมไปด้วยได้
เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้แต่ต้องดำรงอยู่ต่อไปให้ได้
โลกของการ์ตูนก็คือการขายฝัน
แม่ของหนูไม่ได้เสียสละความฝันหรอกนะ เพียงแต่มีความฝันเดียวกับพ่อของหนู
ถึงจะลำบากแต่ก็ได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นการตอบแทน
ยุคสมัยเปลี่ยน คนเราก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย แต่บางสิ่งกลับไม่เปลี่ยน
ถ้าสามารถทำลายกำแพงออกมาได้ก็จะเป็นอิสระ
เรื่องความรักมันไม่ควรจะเป็นเหตุเป็นผล ถ้าเกิดรักขึ้นมาแล้วแม้จะรู้ว่ามันผิดแต่ก็จะทำอะไรสักอย่างโดยไม่คิด
เวลาที่ผ่านมาความสำเร็จกับความผิดพลาดอย่างไหนมันมากกว่ากัน
การพิมพ์เรื่องยาวไม่เหมือนการพิมพ์เรื่องสั้นตอนเดียวจบ แต่ละสัปดาห์ แต่ละหน้าที่ถูกตีพิมพ์ ผู้อ่านยอมจ่ายเพื่อมันถ้ามันสมราคา
การมองไปที่คนเหล่านั้นถึงเป็นแค่การมองผ่านๆ แต่มันทำให้เกิดเนมในหัวตลอดเวลามันทำให้ผมอยากวาดมันให้เสร็จไวๆ
นักเขียนเขียนออกมาจากความต้องการส่วนลึกแม้กระทั่งตัวเองก็อาจจะไม่รู้ว่ากำลังพยายามจะสื่ออะไรออกมา ไม่เข้าใจที่มาของความต้องการนั้น แต่ถ้าบก.ไม่เข้าใจด้วยผลงานนั้นคงไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะบอกว่าทำงานด้วยกันแต่บก.จะกลายเป็นแค่คนอ่านเท่านั้น
มันจะมีบางครั้งที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องกับความยุ่งยากของคนอื่นแต่ก็ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้
การประสบความสำเร็จต้องรักษาความสมดุลไว้ด้วยความอดทนและพยายามมากขึ้น
สิ่งที่ได้ฟังมาบางครั้งก็ต้องปล่อยวางเพื่อรักษาสิ่งที่สำคัญเอาไว้
นักเขียนไม่ใช่ทาสนิตยสาร
การทำลายความสัมพันธ์กับสิ่งที่คิดว่าเป็นปฎิหาริย์มันเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก
นายน่ะมักจะมีเหตุผลเสมอ นั่นมันกลับทำให้นายน่าสงสาร
กรุณาจบเรื่องนี้อย่างมีความสุข จบลงอย่างมีคุณภาพ
ฉันไม่สามารถวาดอะไรออกมาได้ถ้าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น
จะเป็นอัญมณีที่มีค่า หรือว่าจะเป็นก้อนหิน ขึ้นอยู่กับบก.
พวกเราไม่สามารถนำเสนอเรื่องที่แม้แต่เราเองยังไม่เข้าใจแก่ผู้อ่านได้
เพราะความเป็นมนุษย์ที่ตัวเล็กและอ่อนแอทำให้เหมือนไร้ทางต่อสู้ แต่เขากลับต่อสู้กับความกลัวภายในจิตใจของตัวเองและเดิมพันการต่อสู้ด้วยชีวิตของเขา เพราะทั้งอ่อนแอและสิ้นหวังจึงพยายามที่จะเป็นอิสระจากการถูกควบคุมด้วยความกลัวเหล่านั้น
คนเราต่างก็ต่อสู้เพื่อบางอย่างวันแล้ววันเล่า
ในที่สุดพวกเราก็ได้รับอนุญาตให้พิมพ์เรื่องยาวแต่นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรอกมันเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก
ผลกำไรมันขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว นั่นหมายความว่าจะกลายเป็นสินค้าที่ไม่มีมูลค่า
พรสวรรค์กับความสามารถเชิงพาณิชย์น่ะ มันคนละเรื่องกัน
การใช้ผู้ช่วยก็เป็นส่วนหนึ่งในงานเหมือนกัน
นักเขียนที่เชื่อมโยงตัวเองกับเรื่องมากเกินไปต้องระวังอย่าให้ใส่ความเป็นตัวเองมากเกินไป นักเขียนที่ใส่ความเจ็บปวดของตัวเองลงไปในงานเขียนจะทำให้ความสมดุลทางจิตวิญญาณสูญหายไป จะต้องมีคนคอยป้องกันพวกเขาจากเรื่องพวกนี้ด้วย
มันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่ต้องการจะทำงานให้สมบูรณ์ แต่หลายสิ่งไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จเพียงลำพัง
ฉันจมในความคิดที่ฟุ้งซ่านกว่าจะรู้ตัวว่าได้ไปควบคุมเขา
ผมวาดการ์ตูนก็เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อคนอื่น มันผิดหรือไม่ดีใช่มั้ย? ไม่หรอก เธอไม่ผิดที่ทำเพื่อตัวเอง ปกติฉันเองก็ทำโดยไม่ขึ้นกับใคร
คนส่วนใหญ่ไม่คิดถึงน้ำ ลองจินตนาการถึงจำนวนน้ำที่เรามองไม่เห็นสิ
ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้
สิ่งที่ต้องการคือการวาดการ์ตูนที่สนุกเท่านั้น
ในวันที่คุณรู้สึกสับสนตอนไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนได้โปรดจดจำเวลาเหล่านั้นไว้ ช่วงเวลานั้นมันจะทำให้หัวใจคุณหวั่นไหว
ไม่ว่าคุณจะทำงานเพื่อใครบางคน หรือทำงานเพื่อตนเอง มันไม่สำคัญว่าคุณจะทำเพื่ออะไร ถ้าทุกคนร่วมมือกันแล้วนั้นโลกต้องเปลี่ยนไปแน่นอน นี่คือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้ดำเนินต่อไป จงทำวันนี้ให้ดีและก้าวต่อไป
จูฮัน ชุตไต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น